นายทวีศักดิ์ คิ้วทอง ผู้อำนวยการศูนย์ความปลอดภัย สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้เปิดเผยว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาความรุนแรงจากสถาบันอาชีวศึกษาลดลง โดยเฉพาะสถาบันอาชีวะในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมาณฑล เนื่องจากมีการใช้นโนบายสถานศึกษาปลอดภัย โดยยึดหลัก 3 ป. คือ ป้องกัน ปลูกฝัง และปราบปราม ขณะเดียวกัน สอศ. ได้ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และสหวิชาชีพอื่นๆ ดำเนินโครงการแก้ปัญหานักศึกษาทะเลาะวิวาทในหลายโครงการ อาทิ มีนบุรีโมเดล ซึ่งเป็นโครงการต้นแบบที่ทำให้เกิดการจัดการดูแลและลดความรุนแรงในกลุ่มนักเรียน รวมถึงนักเรียนสถาบันอาชีวศึกษา ซึ่งเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จ อาศัยความร่วมมือจากกองบัฯชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กองตำรวจนครบาล 2 (บก.น.3) ในพื้นที่ของมีนบุรี ลาดกระบัง หนองจอก และคลองสามวา รวมถึงสถาบันพระปกเกล้า ทำโครงการ ห้องเรียนสันติวัฒนธรรม

"สำหรับปีการศึกษานี้ จะเน้นนำร่องโครงการห้องเรียนสันติวัฒนธรรมไปยังสถาบันอาชีวศึกษาในกลุ่มธนบุรี ซึ่งประกอบด้วยสถาบันอาชีวศึกษาใน 4 จังหวัดคือ นครปฐม สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และกรุงเทพฯ ฝั่งธนบุรี รวม 17 สถาบัน ทำกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ที่เป็นประโยชน์ให้สาธารณะ นำผู้เรียนจากสถาบันอาชีวศึกษาที่เป็นคู่ขัดแย้งกันให้ทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสถาบันและสาธารณะเพื่อกระชับมิตรภาพ ลดความขัดแย้งระหว่างสถาบัน" นายทวีศักดิ์กล่าว

นายทวีศักดิ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พัฒนาแอพพลิเคชั่น ทราฟฟี่ ฟองดูว์ ของกรุงเทพมหานคร เชื่อมโยงเครือข่ายมายัง สอศ. สำหรับแจ้งเหตุความรุนแรงโดยเฉพาะช่วงเปิดภาคเรียน ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมรับน้องที่อาจทำให้เกิดความยั่วยุนำไปสู่การใช้ความรุนแรง สามารถแจ้งเหตุผ่านแอพพลิเคชั้นนี้ได้โดยตรง เชื่อว่าจะทำให้สามารถแก้ปัญหาความรุนแรงได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เนื่องจากสามารถระบุตำแหน่งที่เกิดเหตุ บันทึกภาพนิ่ง วิดีโอและเขียนข้อความเพื่อแจ้งเหตุได้ รวมถึงไม่มีการแสดงชื่อของผู้แจ้งเหตุ

image.png